พิธีห่มผ้าพระแก้วจำลององค์ใหญ่ที่สุด เตรียมเปิดเป็นศูนย์ศึกษาปฏิบัติธรรมบำบัดผู้เสพยา

เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต แต่งตั้ง รก.เจ้าอาวาสวัดป่าสามัคคิยาราม หรือ วัดป่าบ้านยาง ( อดีตวัดเณรคำ ) เพื่อดูแลพระแก้วจำลององค์ใหญ่ที่สุด พร้อมปรับให้เป็นศูนย์ศึกษาปฏิบัติธรรม บำบัดผู้เสพยาเสพติด

วันที่ 31 มีนาคม 2567 ที่ วัดสามัคคิยาราม หรือ วัดป่าบ้านยาง ( อดีตวัดเณรคำ ) พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ( ธ. ) ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ได้มอบหมายให้ นายอิทธิพล สุยะลา นายอำเภอกันทรารมย์ ประธานฝ่ายฆราวาส อ่านคำประกาศแต่งตั้ง รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านยาง หรือ วัดสามัคคียาราม “อาศัยอำนาจตามความในข้อ 27 แห่งกฎมหาเถระสมาคม ฉบับที่ 24 แต่งตั้ง พระครู กิตติวรโสภณ ฉายา อินทริโย อายุ 49 พรรษา 29 วิทยฐานะ น.ธ.เอก ป.6 ดำรงตำแหน่ง รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าสามัคคิยาราม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป เพื่อทะนุบำรุงศาสนสถาน โดยเฉพาะองค์พระแก้วจำลอง องค์ที่ใหญ่ที่สุด ด้วยความร่วมมือของนายอำเภอกันทรารมย์ ประกาศให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ทราบทราบ พร้อมกับ ญาติโยม อุบาสก – อุบาสิกา ว่า จากนี้ วัดสามัคคิยาราม แห่งนี้ จะเปิดเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรม ศูนย์บำบัดจิตใจ ผู้ที่เคยเสพยา เคยติดยา แล้วสมัครใจเข้าร่วมโครงการบำบัด ได้มาพักฟื้นจิตใจ เจริญภาวนา นั่งสมาธิ กำหนดเป็นศูนย์สอนธรรมะ ทั้งพระเณร ญาติโยม กำหนดให้มีการทำบุญใส่บาตรข้าวสาร – อาหารแห้ง ในทุกเช้าวันพระ เพื่อจะได้นำข้าวสาร – อาหารแห้ง ที่ญาติโยมมาทำบุญใส่บาตร ไปส่งมอบต่อให้กับครอบครัวผู้ยากไร้ ครอบครัวยากจน ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ในเขตอำเภอกันทรารมย์ กำหนดให้มีการเจริญภาวนาถือศีล ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ในทุกช่วงเย็นวันพระ และห้ามไม่ให้มีการจัดมหรสพ รื่นเริง ห้ามให้มีหมอลำ มาแสดงภายในวัดแห่งนี้ จากนี้เป็นต้นไป

จากนั้นญาติโยมได้ร่วมกัน แห่ผ้ากาสาวพัสตร์ เพื่อนำขึ้นถวาย ห่มให้กับองค์พระแก้วจำลอง องค์ที่ใหญ่ที่สุด แม้จะมีการสร้างในสมัยของอดีตพระเณรคำ แต่ก็ได้มาจากแรงศรัทธาของพี่น้องประชาชน ญาติโยม ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยจิตอันบริสุทธิ์ เพื่อบริจาคทุนทรัพย์มาสร้างองค์พระ ซึ่งวันนี้ทั้งนายอำเภอกันทรารมย์ และคณะสงฆ์ ทั้งเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด ( ธ.) ได้เข้ามาดำเนินการ โอนที่ดินถวายให้วัดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีคณะกรรมการวัด มัคทายกวัด มีเจ้าอาวาส เป็นวัดที่สมบูรณ์ถูกต้องตามที่พระมหาเถระกำหนดทุกประการแล้ว ซึ่งตัวเณรคำเอง ก็ได้รับกรรมของตนไปแล้วตามกฎหมาย แต่วัดก็จะต้องมีพระสงฆ์ มีญาติโยม ดูแลศาสนสถานอันเป็นที่เคารพสักการะของผู้ที่เชื่อในบาป และบุญ เชื่อในคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้มาร่วมกันเปิดวัดแห่งนี้ เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรม เป็นที่บำบัดผู้เคยเสพยา เป็นที่ปฏิบัติธรรม เป็นวัดที่ไม่มีอบายมุข เป็นวัดที่ไม่มีการบริจาคทรัพย์มาสร้างอะไรอีกต่อไปแล้ว

/////////////////////////

ภาพ/ข่าว นายพงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์ / ศรีสะเกษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

error: Content is protected !!