สภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ จัด “เสวนาหัวข้อ Esan Soft Power การยกระดับมรดกทางวัฒนธรรม” จากท้องถิ่นสู่สากล โดยมีสภาวัฒนธรรมจังหวัดภาคอีสาน 20 จังหวัดร่วมวง หวังเม็ดเงิน พัฒนาเศรษฐกิจ เพิ่มขึ้น
วันที่ 25 มิถุนายน 2567 ที่ ห้องประชุมโรงแรมลักษณ์ลดา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอ 22 อำเภอของจังหวัดศรีสะเกษ และประธานสภาวัฒนธรรม จาก 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ร่วมกันให้การต้อนรับ นายโกวิท ผกามาศ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปะวัฒนธรรมร่วมสมัย ที่เดินทางมาเป็นประธานในการเปิดงาน “เสวนาหัวข้อ Esan Soft Power การยกระดับมรดกทางวัฒนธรรม” โดยการจัดการเสวนาในครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานตามโครงการมหกรรมวัฒนธรรมอีสาน “ยลถิ่นดอกลำดวน ชมสวนทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 25 – 26 มิถุนายน 2567 เพื่อเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ และร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็น ในการนำทุนทางวัฒนธรรม และมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่น เผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทั้งในกลุ่มผู้สูงวัย และกระจายสู่กลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ ได้รักษา ต่อยอด พัฒนาสู่สากล อีกทั้งสนับสนุนการนำสินค้าทางวัฒนธรรม ของชุมชนในจังหวัดต่าง ๆ มาพัฒนา แลกเปลี่ยนรู้ร่วมกัน และต่อยอด เพื่อเพิ่มมูลค่า สร้างงาน สร้างอาชีพ และเพิ่มรายได้ ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และฟื้นฟูการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทุกจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และผลักดัน Soft power ให้มีบทบาทพลิกฟื้นเศรษฐกิจ และสังคมไทย หรือที่เป้าประสงค์ ว่า วัฒนธรรมกินได้ สร้างรายได้ได้ จากภูมิปัญญาของคนอีสาน จากรุ่นสู่รุ่น สืบต่อเนื่องไป
โดย นายโกวิท ผกามาศ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ได้กล่าวพบปะ โดยกล่าวในตอนหนึ่ง ว่า ประมาณเดือนมิถุนายน ที่ก่อนจะลุกมารับตำแหน่งใหม่ ได้เคยคิดต่อยอดจาก Soft power ช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ และอีกประเพณีหนึ่งที่อยากจะทำ ก็คือประเพณีลอยลอยกระทงของไทย ที่อาจจะถูกยกขึ้นสู่มรดกโลก ร่วมกับประเพณีสงกรานต์ ก็คือมีความคิดว่า จะเชิญน้องลิซ่า ที่เป็นคนไทย เชิญมาเป็นนางนพมาศของประเทศไทย โดยได้คุยกับคุณแม่ลิซ่าแล้ว คุยกับคุณป้าลิซ่าแล้ว กำลังจะคุยถึงตัวลิซ่าโดยตรง ก็หมดเวลาในการนั่งตำแหน่ง ก็เลยยังไม่ได้ทำ ต่อเนื่องจากว่าทำไมต้องเป็นน้องลิซ่า โดยรัฐบาลท่านกำหนดให้ 2 เรื่อง คือสงกรานต์ กับ ลอยกระทง จะเป็นเมกกะอีเว้นท์ ของประเทศไทย ที่จะสร้างคุณค่าทางสังคม และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทย ก็ฝากทุกท่านได้ดำเนินการต่อ ก็ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจในวันนี้ให้เกียรติมาเป็นประธานเสวนาในวันนี้ด้วย ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์ยิ่งต่อทั้งภาคเศรษฐกิจและสังคมของไทย
จากนั้นคณะประธานสภาวัฒนธรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด พร้อมด้วยสมาชิกสภาวัฒนธรรม ที่เดินทางมาร่วมงาน ได้ประกอบพิธีบายศรีสู่ขวัญให้กับ นายโกวิท ผกามาศ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปะวัฒนธรรมร่วมสมัยและภรรยา ด้วยพ่อพราหมณ์ ที่ร่ายเวทเป็นภาษาเขมร เนื่องจากดินแดนปราสาทขอม อำเภอกันทรลักษ์ ที่อยู่ติดกับประเทศกัมพูชา จะเชื่อว่า ภาษาที่ใช้ในการร่ายเวท และศักดิ์สิทธิ์ที่สุดก็คือภาษาเขมร แต่เป็นภาษาเขมรของชมเผ่าเขมรของจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย ทำให้ก่อให้เกิดความอยู่เย็น เป็นสุข ทุกข์ไม่มี ขอให้เจริญก้าวหน้า ทั้งหน้าที่การงาน และธุรกิจของทุกที่มาร่วมงานด้วย
//////////////////////
ภาพ/ข่าว นายพงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์ / ศรีสะเกษ
