ชาวบ้านแสงใหญ่ ตำบลหนองแวง อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ สืบสานประเพณีที่สืบทอดกันมา กว่า 100 ปี ในการจัดการแข่งขันเรือยาวโบราณ เรืออายุกว่า 157 ปี ในอ่างเก็บน้ำร่องน้ำคำ คุณยาย 92 ปี มาร่วมชม
วันที่ 22 ธันวาคม 2567 ที่ อ่างเก็บน้ำ ร่องน้ำคำ บ้านแสงใหญ่ ตำบลหนองแวง อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ชาวบ้านได้ร่วมกัน ให้การต้อนรับ นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ในการแข่งขันเรือยาวโบราณ เพราะวันนี้ถือเป็นการแข่งขันเรือยาวสนามสุดท้าย ก่อนหยุดฤดูกาลแข่งเรือยาวของจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งวันนี้ถือเป็นการแข่งขันเรือยาว พิเศษ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยการจัดแข่งขันเรือยาวโบราณ ขนาด 30 – 40 ฝีพาย ที่เรือมีอายุ 157 ปี ที่เป็นตำนานของคุ้งน้ำในแถบภาคอีสาน นั้นก็คือ เรือท้าวผ่าน และเรือนางนาคแก้ว โดยเรือท้าวผ่าน เป็นเรือขุดโบราณ จากไม้ตะเคียนทั้งลำ ในช่วงปี พ.ศ.2410 สมัยขุนบริบาล เป็นกำนันตำบลหนองแวง ขุนศักดิ์ดา เป็นผู้ใหญ่บ้านแสงใหญ่ คนแรก มีมติให้มีแข่งพายเรือ เพื่อคัดเลือกเอามาใช้ประจำหมู่บ้าน ที่สมัยนั้นใช้การเดินทางโดยทางเรือ ตามลำน้ำมูล และลำน้ำชี ชาวบ้านจึงได้เดินทางไปซื้อมาจาก อำเภอโขงเจียม เมื่อปี พ.ศ.2430 ซึ่งเรือขุดท้าวผ่าน ได้มีการขุดเป็นเรือสำเร็จไว้แล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2410 ส่วนเรือนางนาคแก้ว เป็นเรือที่ขุดจากต้นตะเคียนทั้งต้นเช่นกัน โดยเรือขุดอยู่ที่ บ้านท่าลาด อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ขุดเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2440 โดยหลวงพ่อจารย์ครูศรี ภาดี เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านแสงใหญ่ สมัยนั้น ได้เดินทางพร้อมมัคถายกวัด ไปซื้อมาในราคา 3,000.-บาท นำมาสร้างความสามัคคีให้กับชุมชน ที่ได้มาฝึกพายเรือ มาลงพายเรือ ไปร่วมแข่งขันหลายสนาม ได้รางวัล 1 – 3 มาโดยตลอด และมีการนำเรือมาบำรุง รักษา ให้คงสภาพที่สามารถใช้การได้ตราบจนทุกวันนี้ ซึ่งวันนี้เรือทั้ง 2 ลำ ที่ถือว่าเป็นเรือโบราณที่มีอายุมากที่สุด ได้มาลง ร่วมทำการแข่งขัน เรือยาวโบราณ 30 – 40 ฝีพายด้วย ซึ่งวันนี้มี นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ ผู้แทนราษฏร เขต 2 จังหวัดศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย เดินทางมาเป็นประธานเปิดการแข่งขันด้วย
ก่อนการแข่งขัน ได้มีพิธีไหว้บูชา คุ้งน้ำ ร่องน้ำคำ ซึ่งถือว่าเป็นประเพณีอันสำคัญ โดยการนำสาวงาม ตั้งแต่สมัยยาย ย่า คุณตา และสาวใหญ่ในปัจจุบัน สาวสวยประจำหมู่บ้าน แต่งกายด้วยชุดชนเผ่าลาว ลงไปในลำเรือโบราณ พร้อมยืนร่ายรำ โดยให้ฝีพาย พาย วน บวงสรวงบูชาไปรอบๆ คุ้งน้ำร่องน้ำคำ ขณะที่ฝ่ายชายก็ตีคล้อง ตีกลอง ส่งเสียงทำจังหวะให้สาวงามที่จะต้องยืนอยู่บนเรือ ร่ายรำตามจังหวะคล้อง กลอง ร่ายรำไปเรื่อย จนฝีพาย พายเรือวนไปรอบคุ้งน้ำ ถือเป็นการไหว้บูชา ขอบคุณสายน้ำ ที่ให้ชีวิต ให้ความเป็นอยู่ ในการดำรงชีวิตของผู้คนในแถบนี้ ได้ทำมาหากิน อาศัยน้ำเป็นหลักในการทำมาหากิน ทั้งใช้อุปโภค -ทั้งบริโภค โดยมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศ เพื่อมาชมการแข่งขันเรือยาวโบราณ แน่น 2 ฝั่งคุ้งน้ำ ร่องน้ำคำ แม้กระทั้งคุณยาย ปิว อายุ 92 ปี ก็ให้ลูกหลานพามาดูทุกปี เพราะเป็นการแข่งขันแบบบ้านๆ สนุกสนาน แบบดั่งเดิม สมัยก่อน
ผลการแข่งขันปรากฏว่า ประเภท 40 ฝีพาย ชนะเลิศ ถ้วย (ก.) นอกพื้นที่ ลำดับที่ 1 คือ เรือธิดานาคแก้ว ลำดับที่ 2 เรือธิดาคำไหล ลำดับที่ 3 ธิดาหอมไกล และลำดับที่ 4 เรือสาวบ้านแก้วกาบคำ ส่วนเรือประเภท 30 ฝีพายโบราณ ลำดับที่ 1 ได้แก่ นางนาคแก้ว ลำดับที่ 2 เรือ นส.สไบทอง ลำดับที่ 3 เรือนางไพรคำสอน ลำดับที่ 4 เรือ นส.ศิริชัยชนะ ท่ามกลางความสนุกสนาน ฉลองก่อนปีใหม่ไทย ด้วย
//////////////////////
ภาพ/ข่าว ทีมข่าว Timenews / ศรีสะเกษ
