กัมพูชา เปิดให้คนไทย 7 จังหวัด ใช้ใบผ่านแดนชั่วคราว หรือ บอร์เดอร์พาส แทนพาสปอร์ต สามารถผ่านไปเที่ยวได้ถึงจังหวัดเสียมราฐ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ นครวัด – นครธม โดยผ่านจุดผ่านแดนช่องสะงำจังหวัดศรีสะเกษ
วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม 2566 ที่ ตลาดนัดจุดผ่านแดนไทย – กัมพูชา จุดช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ทุกวันอาทิตย์จะมีตลาดนัดที่มีการเดินทางข้ามแดนมาค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้า ทั้งของพ่อค้า แม่ค้า รวมทั้งการเดินทางมาเที่ยวชมตลาดชายแดน ของบรรดานักท่องเที่ยว ที่เมืองใหม่ช่องสะงำ โดยตลาดส่วนใหญ่จะเป็นแม่ค้าส่ง มาแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างพ่อค้าแม่ค้าของไทย กับพ่อค้าแม่ค้าของกัมพูชา ที่เดินทางข้ามแดนเข้ามาหาซื้อสินค้าไปจำหน่ายต่อที่ในประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก อย่าง นครวัต – นครธม ในจังหวัดเสียมราฐ เพียง 135 กิโลเมตรจากชายแดน แต่จุดผ่านแดนช่องสะงำ จะอยู่ในเขตอำเภออัลลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา ที่ผ่านมาหากนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเที่ยวนครวัต – นครธม จะต้องใช้พาสสปอร์ต ในการเดินทางผ่านพรมแดนเข้าไปเท่านั้น แต่วันนี้คณะรัฐบาลของกัมพูชา ได้มีหนังสือแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ชายแดนกัมพูชา และแจ้งมายังนายอำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ของไทย ว่า ประชาชน นักท่องเที่ยวสามารถใช้ใบผ่านแดนแบบบอร์เดอร์พาส แทนพาสสปอร์ต ในการข้ามแดนเพื่อผ่านจุดผ่านแดนช่องสะงำ ผ่านอำเภออัลลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย ผ่านไปยังจังหวัดเสียมราฐ ที่มีแหล่งท่องเที่ยว อย่างนครวัต – นครธม ได้แล้ว ทั้งนี้นับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป โดยสามารถเข้าไปได้ 7 วัน
ซึ่งเช้าของวันนี้ นายพงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ และนายหัตชัย เพ็งแจ่ม ผู้ประสานงานชายแดนไทยกัมพูชาจังหวัดศรีสะเกษ และคณะสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ ได้เดินทางไปพบกับผู้บริหารชายแดนช่องสะงำ โดยได้ร่วมหารือขอทราบข้อมูล ในการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทย ใช้ใบผ่านแดนแบบใบบอเดอร์พาส ทดแทนพาสสปอร์ต ข้ามพรมแดน ข้ามจังหวัดอุดรมีชัย ไปเที่ยวนครวัต-นครธม ได้แล้ว โดยพบกับ นายเฮง พิรุน รองนายด่าน ตม.ของกัมพูชา หัวหน้าฝ่ายวีซ่าของกัมพูชา ที่เป็นผู้ประสานงานชายแดนกัมพูชา ช่องสะงำ อำเภออัลลองเวง โดยหลังจากได้ขอดูเอกสารหนังสือจากคณะรัฐบาล ที่ส่งตรงลงมายังเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน โดยมีข้อความเป็นภาษาเขมร มีใจความโดยรวมว่า “เพื่อตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ และการอ้างอิงข้างต้น ข้าพเจ้าขอแจ้งต่อ ฯพณฯ ว่า ตามคำขอของกระทรวงมหาดไทย รัฐบาลกัมพูชาได้มีมติให้ขยายการเดินทางของคนไทยที่อาศัยอยู่ในจังหวัดชายแดนกัมพูชาไปยัง ใช้บัตรชายแดนสามารถเข้าถึงเสียมราฐเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้ (ตามข้อตกลง ผู้ถือบัตรผ่านแดนสามารถเข้าได้เฉพาะจังหวัดชายแดนเท่านั้น) ตามหลักการนี้ กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ จัดทำบันทึกทางการทูตแจ้งให้ฝ่ายไทยทราบว่า คนไทยที่อาศัยอยู่ในจังหวัดที่มีพรมแดนติดกัมพูชาสามารถใช้บัตรผ่านแดนเพื่อเดินทางไปยังเสียมราฐได้ ในแหล่งท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป ดังนั้น ฯพณฯ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและแนะนำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามหลักการข้างต้นเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โปรดยอมรับ ฯพณฯ การรับรองการพิจารณาสูงสุดของฉัน วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2566 พนมเปญ คนที่ 30 ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะรัฐมนตรี กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ – กระทรวงการท่องเที่ยว – สำนักนายกรัฐมนตรี – สำนักนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย – เอกสาร ลงชื่อ ดร.เหมา จันดารา”
โดยหลังจากนี้นักท่องเที่ยว ใน 7 จังหวัดอันได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ, จังหวัดสุรินทร์, จังหวัดบุรีรัมย์, จังหวัดสระแก้ว, จังหวัดจันทบุรี, จังหวัดตราด และจังหวัดอุบลราชธานี สามารถใช้ใบบอร์เดอร์พาส แทนพาสสปอร์ต ข้ามพรมแดนไทย ตรงจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ เพื่อเดินทางไปเที่ยว นครวัต – นครธม เที่ยวจังหวัดเสียมราฐ ได้นานถึง 7 วัน โดยสามารถขอทำใบผ่านแดนแบบบอรเดอร์พาส ได้ที่สำนักงานทะเบียนราษฎร จังหวัดศรีสะเกษ และที่อำเภอตามแนวชายแดนได้ทุกวันทำการในเบื้องต้นก่อน และในอนาคตอาจจะมีบริการจัดทำใบบอร์เดอร์พาสให้ที่ สำนักงานชั่วคราว ที่ จุดผ่านแดนช่องสะงำได้ในโอกาต่อไป ขณะที่ทางฝั่งไทย หลังด่านชายแดน ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นอันซีนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่หน้าผาพญากรูปรี ที่ในช่วงเช้าๆ จะมีหมอกบางๆ ลอยผ่านลำตัวนักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปสวยๆ กันด้วย
/////////////////////////
ภาพ/ข่าว มาธวรรย์ แสนมานิตย์ / ศรีสะเกษ
