จ.ศรีสะเกษ เปิดชุมชนบำบัดยาเสพติดอย่างยั่งยืน

จังหวัดศรีสะเกษ เปิดชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืน วางมาตรการเข้มทั้งปราบยา และเฝ้าดูแลรักษา จากยาเสพติด ถึงขนาดพ่อแม่ยกมือไหว้ร้องขอชีวิตจากลูกที่หลอนเพราะฤทธิ์ยา พ่อแม่นอนไม่หลับ หวาดระแวงทุกคืน

วันที่ 18 ธันวาคม 2566 ที่ หอประชุมโรงเรียนกระแชงวิทยาคม ตำบลกระแชง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในการเปิดโครงการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืน ในตำบลที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ชนิดยาบ้า สูงสุด โดยจังหวัดศรีสะเกษ เป็น 1 ใน 100 ตำบลของไทย โดย บิ๊กหลวง พลตำรวจโท ภานุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาการแทนเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ได้เดินทางมาให้ความรู้ในเรื่องพิษโทษภัยจากยาเสพติด แก่น้องๆ ผู้ที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืน ให้ความรู้กับผู้ปกครองที่เคยมีลูกเสพยา แต่วันนี้กลับใจเข้าร่วมโครงการ รวมทั้งคณะเจ้าหน้าที่ชุด ชรบ.ในตำบลกระแชง เจ้าหน้าที่ปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษ เป็น 1 ใน 100 หมู่บ้าน/ตำบล ที่มีผลกระทบต่อยาเสพติดมาก และได้รับการคัดเลือกให้เปิดหมู่บ้านตำบลยั่งยืน ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ, นายอำเภอกันทรลักษ์ ผู้นำคณะสงฆ์ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น กำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน ผู้อำนวยการโรงเรียน ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาทั้งประถม และระดับมัธยม ในการลง MOU ให้ความร่วมมือโครงการชุมชนบำบัดฯ

พลตำรวจโท ภานุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาการแทนเลขาธิการ ปปส. เล่าว่า ข้อมูล ณ.วันนี้เป็นผู้ที่เสพยาแล้วหลอน ที่เป็นข้อมูลทางการแพทย์ ผ่านการตรวจรับรองเป็นผู้ป่วยทางจิตเวช ที่เป็นผลพวงจากการเสพยามาก่อน คือ จำนวน 4,140 คน จริงๆ น่าจะมีมากกว่านี้ แต่ยังไม่เข้าสู่ระบบการตรวจรับรอง ซึ่งแทบทุกวันจะเห็นข่าวว่า “คนคลั่งยา” ใช้มีดไล่ฟันพ่อแม่ “คนคลั่งยาเดินหลอนเข้ามาไล่ทำร้ายเด็กนักเรียนในโรงเรียน” และหนักกว่านั้น “พ่อแม่จ้างฆ่าลูกตัวเอง” ดังนั้นทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ชุมชนเป็นจุดแข็งที่สุดที่จะทำให้ยาเสพติดหมดไป จากนั้นก็ขอมอบเงินให้น้องๆ อย่างน้อยจำนวน 2 คน ที่กลับใจ มาเข้าร่วมโครงการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืน เพื่อนำไปซื้อขนม ซื้ออาหารอร่อยๆ เอาเงินไปสร้างอาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ได้ไปซื้อยาเสพอีกแล้วน่ะ พ่อแม่เป็นห่วง วันนี้ดีใจกับพ่อแม่ ที่ลูกมาสมัครใจเข้าร่วมโครงการ ซึ่งการเลิกยา เพราะสุดท้ายแล้ว ก็อยู่ที่ใจของตนเอง ยาบ้าไม่มียารักษา อยู่ที่ใจอย่างเดียว หากใจสู้จะเอาชนะมันได้ แต่หากสู้กับมันยากในการที่จะเลิกเสพเลิกยา ก็ขอให้บวชเป็นพระเลย จะได้ใช้ธรรมะเพื่อเอาชนะยาเสพติดได้ ทุกอย่างก็อยู่ที่ใจ เอาชนะใจตนเองให้ได้ จะชนะยาเสพติดได้ไม่ยาก  

ขณะเดียวกัน นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า วันนี้ขอเป็นกำลังใจ ให้ทั้งคุณแม่ คุณลูก และเพื่อนๆ ก็จะต้องเลือกที่จะคบเพื่อน เพราะสุดท้ายเพื่อนก็ช่วยอะไรไม่ได้ เขาก็จะต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านเขา เราก็ต้องอยู่บ้านเรา พ่อแม่ก็ดูแลลูกอยู่บ้านเรา ทำบ้านเราให้สงบ พ่อแม่ต้องให้ความร่วมมือ ชุมชนก็จะให้ความร่วมมือ วันนี้คุณแม่อายุ 57 ปีแล้ว ลูกก็จะต้องหายเพื่อมาดูแลพ่อแม่ต่อ ดูแลธุรกิจของครอบครัว ดูแลชุมชน สังคมต่อไป ดีใจที่แม่พาลูกมา และลูกก็สมัครใจที่จะเลิกมัน ก็ขอให้สู้ๆ จนชนะ      

/////////////////////

ภาพ/ข่าว นายพงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์ / ศรีสะเกษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

error: Content is protected !!