ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ แถลงผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติด พร้อมยึดของกลาง ยึดทรัพย์ เชื่อจับเท่าใดก็ไม่หมด หากยังมีผู้ซื้อเสพ วิงวอนผู้ปกครองแจ้ง ลูกเสพยาต้องเข้ารับการบำบัด หยุดซื้อ
บ่ายของวันที่ 31 มกราคม 2567 ที่ หน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย พลตำรวจตรี พิษณุ วัตถุ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ นายนพ พงษ์ผลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ชุดพิเศษ 238 พิทักษ์นครลำดวน ในห้วงวันที่ 27 ธันวาคม 2566 จนถึง วันที่ 30 มกราคม 2567 เจ้าหน้าที่ฯ สามารถติดตามจับกุม ผู้ที่กระทำกรณีจำหน่าย หรือเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด ชนิดยาบ้า ยาไอซ์ จับผู้ต้องหาได้ 398 คน ของกลางยาบ้า 558,938 เม็ด ไอซ์ 13.20 กรัม ยึดทรัพย์สิน นักค้ายาเสพติด รวมมูลค่าประมาณ 12,818,080.- บาท นำมาแถลงผลการทำงาน ในพื้นที่ 22 อำเภอของจังหวัดศรีสะเกษ โดยได้นำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ยาเสพติด รวมทั้งโทรศัพท์มือถือ จำนวนมาก ของผู้ที่ค้ายา ใช้ในการประกอบเหตุ ติดต่อซื้อขายยาเสพติด นำไปสู่กระบวนการติดตามจับกุมดังกล่าว ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษ ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ควบคู่ไปกับการนำผู้ที่เสพยา ติดยา ที่ถือว่าเป็นผู้ป่วย นำเข้าสู่กระบวนการบำบัด เพราะเชื่อว่า หากไม่มีผู้ที่ซื้อยาเสพ ก็จะไม่มีผู้ที่ติดยาอีกต่อไป จึงขอวิงวอนผู้ปกครอง ยอมให้ลูกหลานที่เสพยา เข้าสู่กระบวนการบำบัด แจ้งเจ้าหน้าที่ นำลูกหลานเข้าบำบัด ตามมาตรการคืนคนสู่สังคม
นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวย้ำว่า จังหวัดศรีสะเกษได้ขับเคลื่อนแนวทางการปฏิบัติ เรื่องการป้องกันยาเสพติด ในหลายมาตรการ โดยวันนี้ได้มีการแถลงข่าวในการจับกุมยาเสพติด จากการจับกุมแล้ว เรายังมีมาตรการป้องกันและการบำบัดฟื้นฟู โดยถือเป็นวาระของจังหวัด ซึ่งจังหวัดเราตั้งเป้าหมายว่าจะคืนคนดีสู่สังคม เป็นมาตรการสำคัญของจังหวัดตอนนี้ เราได้มีกระบวนการค้นหาผู้เสพ ผู้ติดยา และเราก็นำเข้าสู่การบำบัดฟื้นฟู โดยเป็นการร่วมมือของทุกภาคส่วน หน่วยงานที่จะให้ความสำคัญเป็นระดับต้นๆ ก็คือชุมชน ต้องให้ความร่วมมือกับองค์กรทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เราได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ปกครอง ผ่านผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.โดยเน้นให้ทุกคนเข้าใจ ว่าผู้เสพก็คือผู้ป่วย ลูกหลานพ่อแม่พี่น้องเราเป็นคนป่วย หากเสพยา และหากลูกหลานเราป่วยแล้ว เราไม่พาลูกหลานเราเข้ามาสู่การบำบัด อาการของเค้า ก็จะหนักเพิ่มขึ้น รุนแรงขึ้น หนักขึ้น จะเริ่มทำร้ายคนข้างๆ ทำร้ายตัวเขาเอง ซึ่งหากเราพบคนติดยาเสพติด ในหมู่บ้านของเรา เราต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่ เพื่อนำเข้ามาสู่การบำบัดฟื้นฟู ซึ่งเรื่องนี้เราจะเห็นกันเป็นประจำ โดยผู้ที่เสพยาเสพติด แล้วเป็นจิตเวช ไล่ทำร้ายคนในครอบครัว ทำร้ายคนในชุมชน ซึ่งเราไม่อยากเห็นเหตุการณ์ที่ดีเกิดซ้ำๆ ขึ้นในทุกๆ วัน จึงขอวิงวอนพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือคนในชุมชน หากพบเห็นคนที่ติดยา เห็นคนที่เสพยาต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเราจะได้นำมาเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง และเข้าสู่การบำบัดคืนคนดีสู่สังคมต่อไป
///////////////////////
ภาพ/ข่าว นายพงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์ / ศรีสะเกษ