อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย และอำเภออลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา บรรลุข้อตกลง ขยายเวลาเปิดจุดผ่านแดนช่องสะงำ จากเดิม 20.00 น. เปลี่ยนเป็นปิด 22.00 น. เพื่อการค้า การท่องเที่ยว
วันที่ 6 มกราคม 2568 ที่ จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย ตั้งแต่เช้าของวันนี้ จ่าเอก สมควร สิงห์คำ นายอำเภอภูสิงห์ หัวหน้าส่วนอำเภอ ร่วมกับพี่น้องประชาชน คนอำเภอภูสิงห์ ร่วมกับ นายมวน ธีริด นายอำเภออลองเวง หัวหน้าส่วนอำเภอ พี่น้องประชาชน คนอำเภออลองเวง ( อ่าน อะ -ลอง – เวง ) จังวัดอุดรมีชัย ราชอาญาจักรกัมพูชา ได้ร่วมกันประกอบพิธีเซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อการร่วมฉลองความยินดี ในการที่บรรลุข้อตกลงร่วมกัน ของกำหนด การขยายระยะเวลา ในการเปิดปิดด่านชายแดนช่องสะงำ จากเดิมเปิดเวลา 07.00 น. และปิดด่านในเวลา 20.00 น. แต่นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ด่านชายแดนช่องสะงำ ประเทศไทย และด่านชายแดนช่องจวม ประเทศกัมพูชา จะขยายเวลาปิดด่านไปเป็น ปิดเวลา 22.00 น.ทั้งนี้เพื่อความคล้องตัวในการค้าขาย ของพี่น้องทั้ง 2 ประเทศ และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะจากประเทศไทย ผ่านด่านช่องสะงำ ไปสู่สถานที่ท่องเที่ยว นครวัต นครธม สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ระยะทางเพียง 135 กิโลเมตร หากปิดด่านให้ช้าลง นักท่องเที่ยวที่จะไปจากทางฝั่งประเทศไทย มาผ่านจังหวัดศรีสะเกษ ผ่านอำเภอภูสิงห์ ออกทางด่านชายแดนช่องสะงำ ยังด่านชายแดน ช่องจวม ของกัมพูชา ก็จะสะดวก เพราะสามารถเดินทางไปเที่ยวชมนครวัต นครธม และเดินทางกลับเข้าประเทศไทย ทางด่านช่องสะงำ แห่งนี้ได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 วัน จะทำให้เศรษฐกิจของทั้ง 2 แผ่นดิน ดีเพิ่มขึ้นแน่นอน
จากนั้นวันนี้ได้มี นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย เดินทางมาพบกับ นายเมียน จันยาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อมาร่วมกัน ประกอบพิธีอันสำคัญยิ่ง ของทั้ง 2 ประเทศ ในการประกาศให้โลกรู้ ให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบ ประชาชนของทั้งแผ่นดินได้เข้าใจ ในความร่วมมือ ขยายระยะเวลาในการเปิด – ปิด ด่านช่องสะงำ และช่องจวม จากเดิม เปิด 07.00 น. ปิดด่านเวลา 20.00 น. มาเป็นปิดด่านในเวลา 22.00 น. ด้วยการอ่านประกาศของกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนที่จะร่วมกับ ตัดริบบิ้น เปิดการปิดด่านเพิ่มขึ้นจากเดิม อย่างเป็นทางการ สร้างความยินดีให้กับพี่น้องประชาชน ทั้ง 2 แผ่นดิน และนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว ที่จะท่องเที่ยวผ่านจัดผ่านแดนช่องสะงำ และช่องจวม แห่งนี้เป็นอันมาก
///////////////////////
ภาพ/ข่าว ทีมข่าว Timenews / ศรีสะเกษ
