เปิดวงโสเหล่ทิศทางการศึกษา ครูไทยต้องอยู่

เครือข่ายชุมชนคนศรีสะเกษ อดีตครู และผู้บริหารสถานศึกษา เปิดวงโสเหล่ เรื่อง ทิศทางการศึกษาของจังหวัดศรีสะเกษ ครูไทยต้องอยู่ คู่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หลังถูกด้อยค่า

บ่ายของวันที่ 29 มกราคม 2568 ที่ โรงแรมศรีลำดวนเพรส อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ รศ.ดร.เอมอร แสนภูวา รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ, นายวิสัย เขตสกุล เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย, นาย อมรโชคศิริ อมตะสายแก้ว ผู้อำนวยการเชียวชาญ โรงเรียนบ้านละเอาะ สพป.ศก1, นายพยับ เติมใจ ประธาน อสม.อำเภอโนนคูณ และประธาน อสม.แห่งประเทศไทย โดยมี นายทิวา รุ้งแก้ว อดีค ผอ.โรงเรียนอนุบาลศรีสะเกษ ในนามประธานชมรมหมู่บ้านศีล5, ประธานชมรมพุทธสมาคม, ประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัดศรีสะเกษ และรองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการครู ลูกจ้างสถานศึกษา เข้าร่วมเปิดวงเสวนา ในนาม เครือข่ายชุมชนคนศรีสะเกษ อดีตครู และผู้บริหารสถานศึกษา เปิดวง โสเหล่ หรือ การเสวนา เรื่อง ทิศทางการศึกษาของจังหวัดศรีสะเกษ และมี ดร.เชิดศักดิ์ ฉายถวิล รองผู้อำนวยการสถาบันภาษา ศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ เป็นผู้นำวงโสเหล่ จากการที่มีอดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางทางมาเปิดเวทีปราศรัย ในนามของผู้ช่วยหาเสียง ให้กับ ผู้สมัครตำแหน่ง นายก อบจ.ศรีสะเกษ รายหนึ่ง แล้วกล่าวถ้วยคำ ที่ทำให้ครู อดีตครู ลูกจ้างสถานศึกษาในจังหวัดศรีสะเกษ เข้าใจว่า ถูกด้อยค่าของความเป็นครู ใน 4 ประเด็น คือ 1.ครูมีแต่ทำรายงานขอเลื่อนวิทยฐานะ 2.ครูเป็นหนี้ แล้วคอยหลบหนี 3.ครูมีปัญหาครอบครัว 4.ครูที่จะทำหน้าที่สอนต่อจากนี้ไป จะเอาครูต่างชาติมาสอน โดยผู้ที่เดินทางมาร่วมรับฟัง มาร่วมวงโสเหล่ ได้แสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกคนได้กล่าวสรุปมีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า ครูศรีสะเกษ ถูกด้อยค่า เตรียมยกระดับการส่งหนังสือเปิดผนึกไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรงงศึกษาธิการ ส่งไปยังองค์กรครูทั่วประเทศ และส่งตรงไปยังนายกรัฐมนตรี ด้วย  

นางสาว ราตรี ตัวแทนลูกจ้างครู กล่าวในที่วงโสเหล่ ว่า หนูอัตราจ้าง ตัวแทนสถานศึกษา รายงานตัวเข้าทำงานเมื่อ 2 พฤษภาคม 2552 เป็นธุรการรุ่นแรก ออกไปโรงเรียนวันที่ 15 มิถุนายน 2552 ปฎิบัติหน้าที่ 2 โรงเรียน และเพื่อนๆ คนได้รับผิดชอบ 3 โรง 4 โรงเรียน ในตำแหน่งลูกจ้างธุรการ ใน 3 เดือนแรก ได้รับเงินเดือน 4,800 บาท ถามว่าพอไหม ไม่พอ แต่เรามีความหวังว่ารัฐบาล หรือผู้หลัก ผู้ใหญ่ จะดูแลเรา ให้ได้มีสิทธิ์ ที่เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ทั้งที่เขาได้มาประเมินเราทุกปี วันนี้พวกเราเดินทางมาจากทั้ง 4 เขต ของสำนักงานประถมศึกษาศรีสะเกษ มาเพื่อขออยู่ใต้เงาของพ่อครูแม่ครู พาเราต่อสู้ขอศักดิ์ และศรีฯ ของเราคืน

ขณะที่ นายสุกฤษฎิ์ ดวนสูง กรรมการสถานศึกษาโรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย และตัวแทนคนรุ่นใหม่ ลูกหลานคนศรีสะเกษ จากอำเภอวังหิน กล่าวว่า ผมเป็นคนศรีสะเกษ โดยกำเนิด เกิดที่อำเภอวังหิน ขออนุญาตร่วมแสดงความคิดเห็น ในนามของลูกหลานชาวศรีสะเกษ ในนามของคนรุ่นใหม่ ผมมองว่าในช่วงที่ผ่านมานี้ มีผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นอดีตผู้บริหารระดับประเทศ ได้มาพูดถึงการด้อยค่า ของครู ในมุมมองของตนที่เป็นเด็กลูกหลานคนศรีสะเกษ มองว่าคุณครูของเรา ครูไทยไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นกำลังสำคัญของชาติ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราชาวศรีสะเกษ เองควรที่จะออกแถลงการณ์ ตอบโต้ ในส่วนของการมาด้อยค่าครูของเรา

สุดท้าย นายทิวา รุ้งแก้ว อดีค ผอ.โรงเรียอนุบาลศรีสะเกษ ในนามประธานชมรมหมู่บ้านศีล5, ประธานชมรมพุทธสมาคม, ประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัดศรีสะเกษ และรองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวตอกย้ำปิดท้าย ว่า วันนี้ทุกท่านมาด้วยใจ ทั้งผู้บริหารสถานศึกษา ทั้งอดีตครู ทั้งลูกจ้างครู และทั้งครู ต้องขอบคุณทุกคนที่มาวันนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นในศรีสะเกษ ในเรื่องครูมีมากมาย เราก็ช่วยกันรณรงค์แก้ไขปัญหา ช่วยครูและอดีตครูมาโดยตลอด ผู้ช่วยครูที่ได้รับการบรรจุรุ่นแรกก็ศรีสะเกษนี่แหละ เป็นผู้เรียกร้อง ก็ได้ผลประโยชน์กันทั้งประเทศ และนอกจากนั้นก็ผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ วิริยะฐานะต่างๆ นี่ก็คนศรีสะเกษ นี่แหละเป็นคนเริ่มต้นเป็นคนผลักดัน จนได้รับสิ่งนั้นตามสิทธิ์ ทุกอย่างเกิดขึ้นศรีสะเกษ เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ก็ขอฝากลูกๆ ทุกคนอย่าท้อ เราได้สร้างประวัติศาสตร์มาแล้ว เงินคนละบาทช่วยชาติยามวิกฤตก็ทำมาแล้ว วันนี้ต้องทำต่อ ต้องแสดงพลังต่อ ในการต่อต้าน การด้วยค่าครูศรีสะเกษ ครูทั้งประเทศ ด้วย

////////////////////////

ภาพ/ข่าว ทีมข่าว Timenews / ศรีสะเกษ