ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ แนะเกษตรกรรวมกันเป็นกลุ่ม ลงแขกเกี่ยวข้าว รวมกันเป็นกลุ่มสีข้าวสารบรรจุถุงขาย รวมทั้งตากข้าวให้แห้ง นำขึ้นเก็บไว้ในยุ้งฉางรอราคา อย่าแห่กันเทออกขาย เพราะอาจจะทำให้ราคาข้าวตกต่ำ
ค่ำของวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 ที่ แปลงนาศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร บ้านหนองเมย หมู่ที่ 3 ตำบลสำโรง อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ เกษตรกรได้มีการรวมกลุ่มกันเพื่อการเรียนรู้ สืบต่อในการเรียนรู้ โดยเน้นในการลดต้นทุนการผลิต เพื่อการเพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่าย เป็นการเปิดโครงการ “ย่ำนาร่วมแรง เกี่ยวข้าวร่วมใจ ดินแดนเกษตรปลอดภัยยั่งยืน” ในแปลงนาของ กำนันไพโรจน์ ทองภาพ ที่เสียสละแปลงตนเองให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการเกษตร ซึ่งในแปลงนี้จะมีทั้งการทำนาข้าว การปลูกพืชยืนยัน พืชผักสวนครัว การขุดบ่อเลี้ยงปลา การเลี้ยงแหนแดง การลงแขกเกี่ยวข้าวทั้งแบบการใช้งานคน และการรวมกันจ้างรถเกี่ยวนวดข้าวแบบแปลงนารวม เพื่อการลดต้นทุนการผลิต สอนการปรับปรุงบำรุงดิน การจัดการปุ๋ยหมักปุ๋ยอินทรีย์ โดยวันนี้ได้มี นายอนุพงษ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ,นายศราวุธ ทรงโฉม นายอำเภออุทุมพรพิสัย, นายวิชัย ศรีโพธิ์งาม เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ, ประมงจังหวัด, ปศุสัตว์จังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการในอำเภออุทุมพรพิสัย กลุ่มเกษตรกรแกนนำจากอำเภออุทุมพรพิสัย และอำเภอปรางค์กู่ เดินทางมาร่วมกิจกรรม ลงแขกเกี่ยวข้าว
โดย นายอนุพงษ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จังหวัดศรีสะเกษ เรามีทีมเกษตรบูรณาการ โดยเรามีทางเลือกให้กับเกษตรกร กรณีที่พืชผลทางการเกษตร เช่นข้าวที่ออกมามากพร้อมกันในระยะนี้ เราก็แนะนำให้เกษตรกร ปรับปรุงคุณภาพข้าวเปลือก โดยการตากเพื่อรอการจำหน่ายเพื่อให้ได้ราคาที่เพิ่มสูงขึ้น และถ้าหากเกษตรกรที่มีการรวมกลุ่มกัน แล้วก็แปรรูปเป็นข้าวสาร แล้วก็บรรจุหีบห่อ บรรจุถุง เหมาะสม เกษตรกรก็จะสามารถจำหน่ายในราคาที่สูงเพิ่มไปได้อีก หรือถ้าเกษตรกรมีเทคโนโลยีในการปรับปรุงคุณภาพของข้าว โดยทำเป็นข้าวกล้องงอก หรือข้าวฮาง เกษตรกรก็จะสามารถจำหน่ายในราคาที่สูงกว่า เดิมขึ้นไปอีก โดยปีนี้เกษตรกรที่จังหวัดศรีสะเกษ ได้ดำเนินการในหลายพื้นที่แล้ว ในการปรับปรุงคุณภาพเพื่อการจำหน่ายเช่นที่ตนแนะนำนี้แล้ว
/////////////////////////
ภาพ/ข่าว นายพงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์ / ศรีสะเกษ
