แรงงานไทยในศรีสะเกษ หนีตายมาได้จากอิสราเอล วันนี้ขอบวชเพื่อแก้บน โดยนำมีดดาบโบราณ 9 เล่ม พร้อมกับง้าวโบราณ มาใช้ในการปลงผม เพื่อสืบต่อประเพณีแบบโบราณ สมัยพระพุทธเจ้าก็ใช้ดาบในการปลงผม
วันที่ 4 มกราคม 2567 ที่ บ้านเลขที่ 20 บ้านหนองคู ตำบลโพนยาง อำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ นายนาดิน จันทร์สมุทร อายุ 27 ปี ผู้ที่รอดตายมาจากการไปทำงานภาคเกษตรที่อิสราเอล หลังจากเกิดสงครามขึ้น จนไม่สามารถทำงานต่อได้ เพราะการยิงสู้รบกันรุนแรงมากกว่าทุกครั้ง จึงได้ตัดสินใจนำเงินเก็บออกมาซื้อตั๋วเครื่องบิน เพื่อบินกลับประเทศไทย โดยไม่ขอรอความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทย เพราะหวั่นจะเป็นอันตรายต่อแคมป์ และบรรดาคนงาน รวมทั้งตน จึงได้บนบานศาลกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากรอดมาได้ จะขอบวช 9 วันเป็นอย่างน้อยที่ประเทศไทย ที่บ้านเกิดของตน และวันนี้หลังจากกลับมาอยู่บ้าน เคลียร์ปัญหางานการต่างๆ แล้ว ก็เลยจะขอบวชแก้บนตามที่ตนได้กล่าวไว้
ซึ่งในการบวชได้เชิญเฉพาะญาติพี่น้อง ปู่ย่า ตายาย พ่อแม่ ลุง น้า ที่สนิทๆ กันมาปลงผม ที่สำคัญได้นำดาบที่ตนสะสมเอาไว้มาตลอด จำนวน 9 เล่ม ง้าว 3 เล่ม มาประกอบพิธีในการปลงผม โดยทั้งดาบ ง้าว มีอายุมากกว่า 200 ปี ที่ได้สะสมมาทั้งของลานช้าง ดาบสมัยสงคราม 9 ทัพ สมัยพ่อขุนรามคำแหง สมัยกรุงธนบุรี ทั้งของไทย ลาว เขมร สมัยอรรตปือ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชนเผ่าเขมร ลาว ส่วย และเยอ ของจังหวัดศรีสะเกษ ด้วย นำมาใช้ในการปลงผม ซึ่งผลของนายนาดิน ได้ปล่อยยาวมาตลอด นับตั้งแต่ไปทำงานที่อิสราเอล เป็นระยะเวลามากกว่า 2 ปี ความยาวสุด ราว 1 เมตร ซึ่งวันนี้แม้จะเสียดาย แต่ตนได้กล่าวบนเอาไว้ จึงต้องปลงผมเพื่อบวชแก้บน พร้อมกันนี้ในเช้าของวันนี้ ได้กราบนิมนต์พระคุณเจ้า 5 รูป มาสวดมนต์ มารับบาตร ในการทำบุญใส่บาตร ถวายภัตตาหารเช้า ก่อนที่จะไปบวชที่วัดต่อไป โดยเบื้องต้นบนไว้ว่า จะบวช อย่างน้อย 9 วัน
นายนาดิน เล่าว่า ในวันที่เกิดสงครามที่ตนทำงานที่อิสราเอล ตนยกมือไหว้บนว่า หากตนกลับมาบ้านได้ รอดตายมาจากอิสราเอลจากภัยสงคราม กลับมาบ้านเกิดได้อย่างปลอดภัย ตนจะบวชแก้บน และในการบวชครั้งนี้ก็รวมในการอุทิศส่วนบุญกุศลให้กับบิดา – มารดา พร้อมอุทิศส่วนกุศลให้กับเพื่อนๆแรงงานไทยในอิสราเอล ที่เสียชีวิตจากภัยสงคราม ขณะที่ทำงานอยู่แล้วโดนยิง โดนระเบิด ถูกจับเป็นตัวประกัน ก่อนถูกฆ่า เสียชีวิตที่อิสราเอล ทุกคนด้วย ในส่วนดาบที่นำมาปลงผม เพราะตนเป็นชอบสะสมดาบ สะสมง้าว ส่วนหนึ่งหามา ซื้อมา ส่วนหนึ่งเป็นมรดกตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ของปู่ ตกทอดต่อๆ กันมาถึงรุ่นตน ซึ่งตนก็จะอนุรักษ์ต่อไปสู่ลูกหลาน เพราะดาบ ง้าว เหล่านี้เป็นช่างฝีมือระดับบรมครูเป็นผู้ที่ตีขึ้นมาใช้จริงในสมัยสงคราม นักรบไทยได้ใช้มาก่อน ทั้งของหลวงพระบาง ช่างของอรรตปือ ของลาวล้านช้าง ของวียงจันทร์ ของจำปาศักดิ์ ทั้งดาบ หอก ง้าว อายุก็ราว 100 – 200 กว่าปี
ที่นำมาใช้ในการปลงผมก่อนบวช เพราะตนเชื่อว่า เป็นการเดินตามรอยของพระพุทธองค์ พระพุทธเจ้า ที่พระพุทธองค์จะออกบวช ก็ได้ขี้ม้า ใช้ดาบในการปลงผม ตัดเกศาก่อนบวช ก็ไม่อยากให้ทุกคนลืมไปว่า พระพุทธเจ้า ได้ใช้ดาบในการตัดเกศา ก่อนบวช ก่อนบรรลุธรรม เห็นจริง ก่อนสอนคนให้ทำดีต่อๆ มา นายนาดิน เล่า
///////////////////////
ภาพ/ข่าว นายพงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์ / ศรีสะเกษ
